วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ดีใจ...จะได้รู้จักคนที่สุดยอดของประเทศไทย...

0000ได้รับหนังสือจากสำนักงานวุฒิสภา...โดยร่วมมือกับสถาบันพระปกเกล้าฯว่าในวันที่ 18-19 -20 กันยายน 2549 จะจัดสัมมนาสมาชิกวุฒิสภาใหม่ที่รับรองแล้ว จำนวน 180 คน ที่จังหวัดชลบุรี โรงแรมจอมเทียนบีช...ดีใจ...ปลื้มใจ...เพราะรอมานานมากแล้ว...อยากมีเพื่อน สว. อยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้...อยากเห็นผู้นำที่ฝ่าด่านการเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดมาแล้ว...โดยเฉพาะพระเอกในดวงใจท่านสมบัติ เมทะนี สว.กรุงเทพฯ ท่านกล้าณรงค์ จันทิก ผู้มีบทบาทมากมายในสังคมขณะนี้...ท่านสมัคร  สุนทรเวช อดีตหัวหน้าพรรคประชากรไทย อดีตผู้ว่ากทม.ฯลฯ...และใครอีกหลายคน...

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

อำนาจหน้าที่...ของวุฒิสภา...

000  เอกสาร...คู่มือ...ระเบียบกฎหมาย...บทบาทอำนาจหน้าที่...สิทธิประโยชน์...สมุดบันทึก...ทำเนียบสมาชิกวุฒิสภา...ฯลฯ...บรรจุเต็มในกระเป๋าหนังสีดำใบใหญ่...หิ้วออกจากสภาหลังเสร็จสิ้นกระบวนการรายงานตัว...ดุสิตคอนโดคือที่หมาย...ที่ลูกสาวทั้งสามคนรออยู่ท่ีห้องแล้ว(พี่ขวัญ..พี่กอล์ฟ..น้องเกมส์)เพื่อใช้เงินเดือนเดือนแรกของสว.นครพนม...ซื้อของเข้าบ้าน(เข้าห้องเช่า)โทรทัศน์..พัดลม...ตู้เย็น...ถ้วยโถโอชาม...เมนูยาวเป็นหางว่าว...สุดแท้แต่ลูกๆเขาอยากได้...เพราะลูกเขาเป็นคนกรุงเทพผมเป็นคนบ้านนอกเขารู้ดีว่าอะไรจำเป็นบ้าง...โทรทัศน์ ...พัดลม ตู้เย็น...ถ้วยโถ โอชาม...จัดซื้อหาหมดไปร่วมแสน...เงินเดือนตกเบิกตั้งแต่ 19 เมษายนเป็นต้นมาถึง 10 พฤษภาคม แทบหมดในตอนจ่ายเงิน...จัดห้องพักเรียบร้อยลูกๆเบิกบานสำราญใจที่มีพ่อ สองคน...เป็นทั้ง ส.ส.และส.ว.นครพนม ครูแก้ว...กับครูไก่ คนลุ่มน้ำสงคราม....
ขณะรอ....อีกหลายเดือน...ก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่....เพราะ กกต.ประกาศรับรองผลไม่ครบ จังหวัดนครพนม แม่แก็ส...สุจินดา  ศรีวรขาน...เบอร์ 13 ก็ยังมีเรื่องร้องเรียนไม่จบต้องหาหลักฐานไปหักล้าง...ขณะที่รอพรรคพวกอีก 20 คน ทางสำนักงานวุฒิสภาร่วมกับสถาบันพระปกเกล้าฯอันถือว่าเป็นหน่วยงานพี่เลี้ยง....ได้จัดกรอบกระบวนการให้ความรู้กับสว.ใหม่ที่รับรองแล้ว...ให้มีความรู้...รู้บทบาทอำนาจหน้าที่...กฎ...กติกา...ในการทำหน้าที่ทุกสัปดาห์ สว.ใหม่ต้องได้มารู้จักกัน...ก่อนทำหน้าที่จริง...อกสาร

วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

รัฐสภาไทย...สถานที่ของผู้ทรงเกียรติ

0000วันที่ 10 พฤษภาคม เวลา 10.00 น. ปี 49 ที่ชั้น 10 ณ อาคารศรีจุลทรัพย์... ที่ทำการคณะกรรมการการเลือกตั้ง วัน เวลา ชั้นที่จะขึ้นไปรับหนังสือรับรองชั่งตรงกันและเป็นมงคลยิ่งคือเลข 10... ผมโทรบอกพี่มานิต พูลศิลป์ ซึ่งเป็นพี่ชายลูกลุงที่มาทำงานอยู่ กกต. คนบ้านศรีเวินชัยด้วยกัน...ล่วงหน้าแล้วทุกอย่างจึงราบรื่น รวดเร็ว พี่นิตโผเข้าสวมกอดน้องชายตะโกนโวกเวกอวดเพื่อน น้องผมๆๆๆๆๆมันเป็น สว.นครพนม แน่นอนจริงๆโว้ย...
0000รับหนังสือรับรองเสร็จมุ่งตรงไปอาคารรัฐสภา... เพื่อรายงานตัวเข้ารับตำแหน่ง เดินขึ้นตึกอาคารวุฒิสภาด้วยความทรนงองอาดสมมาดผู้ทรงเกียรติจากนครพนม... มีผู้หญิงรูปร่างดีสวมเครื่องแบบตรวจราชการของสภาเดินตรงเข้ามาพร้อมยกมือไหว้รายงานตัวว่า..." ดิฉันผอ.สำนักประชาสัมพันธ์สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาชื่อจิตติเทวี ตติยรัตน์ คนนครพนมค่ะ"... ผมอึ้งและตั้งคำถาม... "เป็นอะไรกับอาจารย์ทวีและพี่นูญครับ"... "อ๋อ คุณพ่อ และพี่ชายค่ะ"...(อาจารย์ทวี ตติยรัตน์ อดีตอาจารย์โรงเรียนปิยะมหาราชาลัยที่ผมเป็นลูกศิษย์เคยเรียนวิชาพลศึกษามากับท่าน... ส่วนพี่นูญคือปลัดนูญ...เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น...ธเทวินทร์ ตติยรัตน์ ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองนครพนม ต่อมาได้เป็นนายอำเภอโพนสวรรค์)..."ดิฉันขออนุญาตกลัดดอกไม้ต้อนรับท่านในสองสถานะนะค่ะ...1.ขอต้อนรับและแสดงความยินดีกับท่านในฐานะสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาค่ะ...และ2.แสดงความยินดีกับท่านที่เป็นศิษย์เก่าปิยะด้วยกันและดีใจแทนคนนครพนมที่ได้ตัวแทนอย่างท่านมาเป็นสว.ค่ะ"...ช่างเป็นคำพูดที่รื่นหูฟังดูน่าปลื้มและหลงไหล...แต่ในใจคิดว่าคนเราจะโชคดี...ถึงเวลาดวงจะดีมันดีไปหมด...ไปกกต.ได้พบพี่ชาย...เป็นญาติและคนบ้านเดียวกัน...มาสภา...มีคนบ้านเดียวกันเป็นญาติกันทางสังคมเป็นลูกหลานพระยาศรีโคตรเหมือนกัน...นั่นเป็นสัญญาณใจให้คิดเสมอว่า...ต่อไปนี้เราเป็นคนสาธารณะอยู่ในสายตาของทุกคน...ต้องตั้งใจทำงานให้เต็มที่อย่าให้พี่น้องนครพนมและคนทั่วไปผิดหวัง..."ในฐานะสว.นครพนมและดิฉันเป็นผอ.สัมนักประชาสัมพันธ์ขอเรียนเชิญท่านไปออกอากาศรายการเสียงจากรัฐสภา...เชิญทางนี้ค่ะ"...
0000"กราบเรียญพี่น้องประชาชนและท่านผู้ฟัง...ที่กำลังฟังรายการสดของรัฐสภาอยู่ในขณะนี้กระผมนายอารมณ์  เวียงด้าน สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครพนม...เป็นวันแรกและเป็นครั้งแรกที่ได้มาออกรายการสดของคลื่นวิทยุเสียงจากรัฐสภา ก่อนอื่นต้องขอกราบขอบพระคุณพี่น้องชาวจังหวัดนครพนม...ที่ให้โอกาสกระผมมาทำหน้าที่แทนพี่น้องในตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติ...ผมขอให้คำมั่นสัญญาต่อพี่น้องประชาชนว่าผมจะทำงานตามกรอบของอำนาจหน้าที่...ให้ดีที่สุด...ผมยังต้องการกำลังใจ...ข้อเสนอแนะ...เพื่อช่วยกันแก้ปัญหา...ให้กับพี่น้อง...โปรดอย่าทิ้งผมให้ทำงานอย่างโดดเดี่ยว...อย่าคิดและนึกเอาว่าปัญหาต่างๆผมจะแก้ไขคนเดียวได้สำเร็จ...ต้องอาศัยทุกคนช่วยคิดช่วยทำ...เพราะตำแหน่งวุฒิสภาเป็นตำแหน่งของทุกคน...อะไรที่เป็นประโยชน์กับชาวนครพนมโปรดได้แนะนำ...อะไรที่คิดว่าไม่เหมาะไม่ควร...ให้บอกให้สอนผมด้วยเพราะผมสำนึกอยู่เสมอว่าผมคือลูกหลานของท่าน"...

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บทบาทสมาชิกวุฒิสภา.....

เวลาประมาณ บ่ายโมงเศษของวันที่ 8 พฤษภาคม 2549 ท่านศักดา สืบไกรสร ผู้อำนายการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ได้แจ้งทางโทรศัพท์ว่าขณะนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 51/2549 เมื่อวันที่30 เมษายน 2549 และ ครั้งที่ 54/2549 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2549 ได้ประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 109 คนและมีเราด้วยในจำนวนนั้น ให้ไปรับหนังสือที่ กกต.จังหวัด เพื่อเดินทางเข้ารายงานตัวกรุงเทพในวันที่10พฤษภาคมนี้
0000หลังจากโทรศัพท์สิ้นเสียงจากปลายสาย ...ในสมองที่หนักอึ้งมานานวันเพราะความคิดสับสนขัดแย้ง...ว่าเราไม่เคยคิดชั่วไม่เคยคิดทำเรื่องนอกรีตผิดกฎหมายเลือกตั้ง...เราต้องบริสุทธิ์...เราต้องได้รับมติเห็นชอบจาก กกต.เหมือนยกสิ่งที่แบกหนักตลอดชีวิตออกจากตัว...เมื่อได้รับข่าวดี

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

สว.ที่อายุสั้นที่สุดในประเทศไทย...


00000พลเอกจารุภัทร เรืองสุวรรณ กรรมการการเลือกตั้ง ปฏบัติหน้าที่แทนกรรมการการเลือตั้ง... กู้ชีวิต กู้เกียรติภูมิศักดิ์ศรี...และความบริสุทธิ์...ออกหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา...เลขที่ 62/2549 ความว่า...หนังสือฉบับนี้ให้ไว้เพื่อรับรองว่า นายอารมณ์ เวียงด้าน ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาเขตเลือกตั้งจังหวัดนครพนม ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2549 ให้ไว้ ณ วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2549...มันคือใบการันตีว่าประชาชนจังหวัดนครพนมได้ลูกหลานจริงๆ...เป็นตัวแทนสมปรารถนา...ที่รอคอยมาหลายวัน...และนั่นคือเครื่องหมายประกาศว่า...ครูไก่...อารมณ์ เวียงด้าน...ลูกบ้านศรีเวินชัย คือตัวแทนของจังหวัดนครพนม...ที่จะไปทำงานให้ประเทศไทย...อำนาจ...วาสนา...มาถึงแล้ว ครูไก่ เอ๋ย...เหลือแต่ฝีมือและหน้าที่...ที่จะต้องแสดงออกมาให้ประจักษ์กับสายตาและ...ความหวังของผู้คน...ความที่เป็นคนบ้านนอกมีความมุ่งมั่น.. เติบโตมากับสภาพแวดล้อมของสังคมชนบทที่อบอุ่นเอื้ออาทร... พ่อที่เป็นครูมีความสนิทสนมกันมาก... พ่อเป็นคนดีของสังคมเป็นที่นับถือและเชิดชูของชาวบ้าน...พ่อจะสอนทุกเวลานาทีของการครองตน...ครองคน...ไม่ว่าเวลาไปหาปลากับพ่อ...เราเป็นคนพายเรือแจวเรือพ่อจะเป็นคนใส่เบ็ด...ใส่มอง(ตาข่ายดักปลา,อวน)...ทอดแห...อยู่หัวเรือ...พ่อจะให้ความรัก ความอ่อนโยน พ่อจะไม่พูดมากแต่พ่อจะสอนเรื่อยๆสอนทุกเรื่องที่เกี่ยวพันในแต่ละวัน...วันนี้ไม่มีพ่อ...มีแต่คำบอกสอนของพ่อที่ก้องอยู่ในหู...ลูกต้องเป็นคนดี...รู้จักบุญคุณคน...รู้จักความดีความชั่วแยกมันให้ออก...ทำอะไรทำให้ดีที่สุด...ให้สนุกกับงานที่ทำ...อย่าทำเพราะหวังสิ่งตอบแทน...ลาภที่ไม่ควรได้อย่าไปเกี่ยวข้อง...ต้องรู้จักบาปบุญคุณโทษ...ให้ซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง...ใหอดทนและเสมอต้นเสมอปลาย...พ่อไม่อยู่...เรายังมีแม่...มีญาติพี่น้อง...มีผู้มีพระคุณที่มอบโอกาสให้กับชีวิตเรา...และเราจะไม่ลืมคำของพ่อ...เราตั้งใจอย่างนั้น..